01 July 2008

The X-Files: I Want to Believe









Director: Chris Carter
Cast: David Duchovny, Gillian Anderson, Xzibit, Amanda Peet, Billy Connolly, Callum Keith Rennie, Adam Godley
Plot: unknown
Genre: Mystery Sci-Fi


หนังภาคต่อของหนังที่แยกตัวออกมาจากหนังทีวีสุดฮิตระดับปรากฏการณ์ถูกเผยชื่อของภาคออกมาแล้วครับ นั่นก็คือ "The X-Files: I Want to Believe" จากปากของ คริส คาร์เตอร์ ผู้สร้าง ผู้กำกับ และผู้ร่วมเขียนบทหนังจากทีวีชุดนี้ ระหว่างให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอพี ทเวนตี้ เซ็นทูรี ฟ็อกซ์ ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายได้อนุมัติชื่อนี้สดๆ ร้อนๆ ในวันพุธที่ผ่านมานี้ ชื่อของหนังเป็นวลีที่คุ้นหูของสาวกแฟ้มลับคดีพิศวง ที่นำแสดงโดย เดวิด ดูคอฟนี่ และ กิลเลียน แอนเดอร์สัน ในบทเจ้าหน้าที่เอฟบีไอ ผู้ไล่ติดตามสืบคดีมนุษย์ต่างดาวและเรื่องราวเหนือธรรมชาติ "I Want to Believe" เป็นสโลแกนบนใบปิดภาพยูเอฟโอของฟ็อกซ์ โมลเดอร์ ตัวละครของดูคอฟนี่ และแขวนไว้ในออฟฟิศของเขาที่อยู่ห้องใต้ถุน ซึ่งเขากับดาน่า สกัลลี่ (แอนเดอร์สัน) ใช้เป็นที่ทำงานทุกวัน


"มันเป็นชื่อตามลักษณะธรรมชาติของเรื่องราว" คาร์เตอร์บอกระหว่างให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ขณะพักการตัดต่อหนัง "มันเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับความยากลำบากในการหาจุดกึ่งกลางระหว่างความเชื่อกับวิทยาศาสตร์ I Want to Believe (ผมอยากที่จะเชื่อ) บอกเป็นนัยๆ ว่าโมลเดอร์กำลังต่อสู้กับความเชื่อของเขา"


"I Want to Believe" ตามหลังภาคแรกมาสิบปี และหกปีหลังปีสุดท้ายของซีรี่ส์ชุดนี้จบไป ซึ่งใช้วลีติดหูเปิดแต่ละตอนของซีรี่ส์มาตลอดเก้าปีว่า "the truth is out there." หนังมีแผนจะลงโรงฉาย 25 กรกฎาคมนี้ แต่เรื่องราวจะไม่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ต่างดาวหรือตำนานว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ต่างดาวตามที่หนังชุดนี้ใช้มาตลอด แต่จะใช้เรื่องราวที่โดดเดี่ยวออกมาเพื่อพุ่งเป้าไปยังสาวกเดนตายของ X-Files และผู้ชมรุ่นใหม่ คาร์เตอร์บอก


"ผมตกใจมาตลอดหลายปีที่ได้ไปพูดคุยกับเด็กวัยนักศึกษา ซึ่งหลายคนไม่เคยรู้จัก หรือไม่เคยชมหนังชุดนี้ ถ้าคุณอายุ 20 ปีแล้ว หนังชุดนี้เริ่มต้นตอนคุณอายุ 4 ขวบ ซึ่งมันคงน่ากลัวไปสำหรับคุณ หรือพ่อแม่คงไม่อยากให้คุณดู จึงมีผู้ชมกลุ่มใหม่อีกจำนวนมากที่น่าจะชอบ หนังภาคนี้จึงถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสนองความพอใจแก่ผู้ชมทุกวัย" แต่สาวกเดนตายก็ไม่ต้องกังวลว่าเรื่องราวจะย้อนกลับไปนับหนึ่งใหม่ หนังจะยังคงซื่อสัตย์ต่อจิตวิญญาณของเรื่องราว และทุกสิ่งที่โมลเดอร์กับสกัลลี่ต้องเผชิญ "เหตุผลที่เราสร้างหนังเรื่องนี้มาก็เพื่อแฟนพันธุ์แท้ เราจึงไม่อยากไม่ให้เกียรติพวกเขาโดยย้อนกลับไปที่แนวคิดตั้งต้นอีกครั้ง" คาร์เตอร์บอก คาร์เตอร์เผยอีกว่าเขาตกลงปลงใจกับชื่อ "I Want to Believe" ตั้งแต่ตอนที่เขาร่วมเขียนบทหนังกับ แฟรงก์ สปอทนิทซ์ มันใช้เวลานานกว่าจะเผยออกมาเพราะทางสตูดิโออยากมั่นใจว่าจะเป็นเชื่อที่ทำการตลาดได้ ผู้สร้างหนังได้ปกปิดเนื้อเรื่องไว้อย่างดีเพื่อไม่ให้โครงเรื่องรั่วไหลไปทางอินเตอร์เนต อันเป็นปรากฏการณ์ที่แทบไม่เคยเกิดขึ้นตอนที่หนังภาคแรกออกฉายในปี 1998 "เราใช้แทบทุกวิถีทางเพื่อเก็บเนื้อเรื่องให้เป็นความลับ ซึ่งรวมถึงให้เฉพาะทีมงานคนสำคัญเท่านั้นได้อ่านบทหนัง และต้องอ่านในห้องที่มีกล้องวิดีโอช่วยฝึกฝนกับเขา มันเป็นประสบการณ์ที่ใหม่มาก" คาร์เตอร์ทิ้งท้าย

No comments:

Looking For More Movie And Soundtrack

Google